top of page
Search

กล้วย และประโยชน์ของกล้วยแต่ละชนิด!!

  • Writer: Tiger Spoon
    Tiger Spoon
  • Nov 14, 2019
  • 1 min read

Updated: Nov 15, 2019

ประโยชน์ของกล้วยแต่ละชนิด

กล้วยแต่ละชนิด นอกจากนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนูแล้ว ยังมีคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป กล้วยแต่ละชนิดมีประโยชน์อะไรบ้าง ไปติดตามกัน


กล้วยหอม



รู้ไหมว่า กล้วยหอมสามารถช่วยเลิกบุหรี่ได้ด้วย นั่นเพราะวิตามินบี 6 บี 12 โพแทสเซียม และแมกนีเซียมที่มีอยู่มาก มีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากการขาดสารนิโคตินได้อย่างรวดเร็ว หรือพูดง่ายๆ ว่าช่วยลดอาการเหวี่ยง อารมณ์หงุดหงิดและฉุนเฉียวจากการขาดบุหรี่ได้ดีนั่นเอง นอกจากนี้สาวๆ ที่ต้องเผชิญกับอาการก่อนมีประจำเดือน ซึ่งส่งผลให้รู้สึกหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน ปวดท้อง ปวดหัว ก็สามารถรับประทานกล้วยหอมเพื่อช่วยลดอาการเหล่านี้ได้เช่นกัน


กล้วยน้ำว้า


สำหรับเมนูสุดโปรดของหลายๆ คนอย่างกล้วยบวชชีนั้น ถ้าจะให้ดีก็ต้องใช้กล้วยน้ำว้าเท่านั้น และรู้หรือไม่ว่ากล้วยน้ำว้ายังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างล้นเหลือ โดยเฉพาะกล้วยแบบห่ามๆ และสุกๆ ที่มีธาตุเหล็กสูง ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง ทั้งยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี แคโรทีน ไนอาซีน และใยอาหารที่ช่วยในเรื่องการขับถ่าย


กล้วยไข่


มีคุณสมบัติโดดเด่นในการช่วยลดริ้วรอย เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าแคโรทีน ซึ่งจะช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของผิวและริ้วรอยต่างๆ รวมไปถึงความเสื่อมของเซลล์ ที่สำคัญยังมีฤทธิ์ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งและยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้อร้ายได้ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะส่วนผลเท่านั้น แต่ในหัวปลีก็ยังมีแคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อกระดูกและเนื้อเยื่อในร่างกายของเราด้วย


กล้วยหักมุก


กล้วยชนิดนี้คุณสมบัติโดดเด่นคือ มีสารที่ชื่อว่าไซโตอินโดไซด์ 1, 2, 3, 4, 5 ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องอืดและท้องเฟ้อเนื่องจากแผลในกระเพาะอาหารได้ดี และยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียเอสเคอริเคีย โคไล (Escherichia coli) ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะและระบบย่อยอาหารบ่อยๆ ก็สามารถลองหามารับประทานกันดูได้


สารอาหารสำคัญในกล้วย

1. เบนโซไพรีน (Benzopyrene) 

2. โดพามีน (Dopamine)

3. เอพิเนฟรีน (Epinephrine)

4. ทริปตามีน (Tryptamine)


นอกจากนี้ยังพบว่าภายในกล้วยดิบนั้นมีสารแทนนินจำนวนมาก ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องเสียและโรคบิด รวมถึงช่วยลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยไม่พบสารต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหารในกล้วยสุก แต่จะมีสรรพคุณช่วยเป็นยาระบายอ่อนๆ สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคริดสีดวงทวารหรือผู้ที่มีอาการท้องผูกแทน


คำแนะนำในการรับประทานกล้วย

กล้วยสุกนั้นรับประทานง่าย ลื่นคอ และย่อยง่ายกว่าแบบดิบๆ ทำให้บางคนไม่เคี้ยว หรือเคี้ยวไม่ละเอียดก่อนกลืน ซึ่งถือเป็นวิธีการรับประทานที่ผิด เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วกล้วยจะประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรตมากถึง 25% หากเคี้ยวไม่ละเอียดจะส่งผลให้กระเพาะอาหารต้องทำงานหนักในการย่อยมากขึ้น ทำให้ท้องอืดได้ 

ร่างกายสามารถย่อยกล้วยได้ง่ายและใช้เวลาย่อยเร็วกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ ดังนั้นจึงนิยมนำกล้วย (เฉพาะเนื้อ นำไส้ออก) มาบดให้กับเด็กหรือทารกรับประทาน นอกจากนี้ยังจัดเป็นอาหารช่วยลดความอ้วนที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมด้วยโพแทสเซียม ซึ่งเมื่อรับประทานอย่างพอดีจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับความดันโลหิต รวมทั้งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดการเกิดมะเร็งลำไส้ ช่วยควบคุมน้ำหนัก บำรุงหัวใจ บำรุงไต ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเกิดตะคริวขณะออกกำลังกาย และช่วยเพิ่มความอึด ทำให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น 

อย่างไรก็ตาม พึงระวังไว้ว่า การรับประทานกล้วยมากเกินไปก็อาจเป็นโทษได้เช่นกัน โดยจะทำให้ได้รับโพแทสเซียมสูงเกินไป จนขับออกทางไตไม่ทันและเป็นอันตรายต่อไตได้ ปริมาณที่แนะนำในการรับประทาน คือ 2 ผลต่อวัน

นอกจากข้อมูลทางโภชนาการของกล้วยชนิดต่างๆ ที่เรานำมาแบ่งปันแล้ว ยังมีกล้วยอีกหลายสายพันธุ์ในประเทศไทยที่มีประโยชน์อย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง เรียกได้ว่าผลไม้ชนิดนี้ไม่ได้มีแค่ความอร่อย แต่ยังขึ้นชื่อว่าเป็น "อาหารสมุนไพร" อีกด้วย


ร้าน Tiger Spoon ตัวแทนจำหน่ายขนม/ขนมกับแกล้ม จากบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัดกล้วยหอมทองทอดกรอบ รสซอสต๊อด ตรา MAKE BY TODD : https://tigerspoon014.wixsite.com/tigerspoon/

 
 
 

Comments


bottom of page